8.6.07

เครื่องเอสเปรสโซ



จากความเดิมตอนที่แล้ว เนื่องจากการชงแบบเอสเปรสโซนั้นใช้ความดันในการคั้นสูงมาก จึงต้องใช้เครื่องมืออุปกรณ์มากกว่า สลับซับซ้อนกว่าการชงกาแฟวิธีอื่นๆ ทั้งหมด โดยระบบของเครื่องเอสเปรสโซที่นิยมใช้กันมานานและยังแพร่หลายอยู่ในขณะนี้คือ "ระบบแลกเปลี่ยนความร้อน" หรือ "Heat Exchanger" โดยการทำงานสามารถอธิบายได้แบบง่ายๆ ตามไดอะแกรมด้านบนนี้ (จาก chriscoffee.com) คือ ทุกครั้งที่เรากดปุ่มเพื่อชงกาแฟ ปั๊มน้ำจะดูดน้ำจากแหล่งจ่ายน้ำเข้ามา ถูกส่งผ่าน over pressure valve เข้าไปใน boiler หากมีความดันเกินน้ำบางส่วนจะถูกปล่อยออกจาก over pressure valve ขณะที่น้ำกำลังเดินทางผ่านเข้าไปในหม้อต้มน้ำ น้ำที่เย็นอยู่นี้จะรับความร้อนจนทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นมาถึงประมาณ 90 องศาเซลเซียส และผ่านวาล์วสามทาง (three way valve) เข้าไปสู่หัวชงกาแฟ โดยแรงดันของน้ำตลอดเส้นทางดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 8.5 บาร์


ด้วยวิธีการของระบบแลกเปลี่ยนความร้อนนี้ จะสังเกตว่าในหม้อต้มน้ำจะมีไอน้ำสำหรับทำโฟมนม และน้ำร้อนสำหรับชงชา โดยสามารถนำออกมาใช้และชงกาแฟไปได้ด้วยในเวลาเดียวกัน การทำความเข้าใจกับไดอะแกรมข้างต้นถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นและเป็นประโยชน์มากสำหรับบาริสต้าโดยทั่วไป เนื่องจากจะทำให้เข้าใจการทำงานของเครื่องในภาพรวม และทำให้สามารถค้นหาสาเหตุของข้อบกพร่องในการชงกาแฟที่อาจเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น หากหลังจากดึง shot กาแฟลงมาในถ้วยแล้วพบว่ากากกาแฟเปียกแฉะไม่จับตัวเป็นก้อนสวยงาม สาเหตุอาจเกิดได้จากหลายจุด เช่นกาแฟบดละเอียดเกินไป อุณหภูมิของน้ำไม่สูงพอ หรือวาล์วสามทางมีความผิดปกติ หากบาริสต้าพอมีความเข้าใจกลไกของเครื่องเอสเปรสโซอยู่บ้างจะทำให้สามารถสืบหาสาเหตุ และแก้ไขปัญหาได้ในที่สุด


แม้ระบบแลกเปลี่ยนความร้อนแบบนี้จะเป็นเทคโนโลยีเก่าที่ใช้กันในโลกของเครื่องเอสเปรสโซมาเป็นเวลานาน แต่ผู้ผลิตชั้นนำหลายๆ รายยังคงเลือกใช้ระบบเดิมอยู่ด้วยเชื่อว่า การใช้น้ำที่สดใหม่ทุกครั้งที่ชงกาแฟจะทำให้เอสเปรสโซอร่อยลื่นคอกว่าการใช้น้ำที่ถูกต้มแล้วต้มเล่า หากพยายามพัฒนาปรับปรุงระบบให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อยมา โดยใช้เทคโนโลยีและการออกแบบเข้าช่วย อย่างเช่นการออกแบบระบบแลกเปลี่ยนความร้อนของ reneka จะใช้หม้อต้มน้ำที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่ เพื่อวางกระบอกแลกเปลี่ยนความร้อนในแนวนอนส่งน้ำตรงเข้าหัวกรุ๊ปโดยหัวกรุ๊ปเชื่อมติดกับหม้อต้มน้ำ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความร้อนได้รวดเร็ว และอุณภูมิของน้ำชงกาแฟมีความสม่ำเสมอมากขึ้น espresso shot ที่ได้ยอดเยี่ยมสม่ำเสมอไม่ว่าจะใช้งานหนักหรือเบา ถือเป็นความพยายามและความชาญฉลาดในการออกแบบอย่างน่าสนใจ

No comments: